โครงการพัฒนาเด็กและเยาวชน ปี2530 ถึง ปัจจุบัน

 

   โครงการพัฒนาเด็กและเยาวชน

ความเป็นมา
             สภาพปัญหายาเสพติดที่มีความรุนแรงเพิ่มขึ้นในหมู่เด็ก และเยาวชน และพบปัญหาในปัจจุบันของเยาวชนคือ  การออกเรียนกลางคัน  ไม่อยากเรียน  ท้องไม่พร้อม  ฯลฯ  โครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนขึ้นเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดในหมู่เด็ก และเยาวชนในชุมชนแออัด ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2530   

นโยบาย
            ส่งเสริมเด็กและเยาวชนให้มีศักยภาพ ผลักดันเด็กและเยาวชนที่มีแนวโน้มออกเรียนกลางคันให้กลับสู่ห้องเรียน  หรือเข้าเรียนการศึกษานอกระบบ สร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดแก่เด็กและเยาวชน      

ส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชน  กลุ่มเยาวชนทั้งในระบบการศึกษาและนอกระบบ

 

วัตถุประสงค์
            เพื่อให้เกิดการรวมกลุ่มของเยาวชนจัดกิจกรรมเพื่อประโยชน์ต่อตัวเองและชุมชน  แบบร่วมคิด/ร่วมทำ/อย่างมีส่วนร่วม  เพื่อพัฒนาชุมชนของตนเอง

พื้นที่ที่ทำงาน 
      พื้นที่ในชุมชนคลองเตย 26 ชุมชน, โรงเรียนชุมชนหมู่บ้านพัฒนา, ชุมชนพื้นที่ใกล้เคียง(ที่ร้องขอมา)

กลุ่มเป้าหมาย

    เด็ก และเยาวชน อายุตั้งแต่ 13 ปี ถึง 25 ปี

กิจกรรม
       ด้านการศึกษา
  1.  ติดตามเด็กที่มีแนวโน้มที่จะออกจากระบบการศึกษาให้กลับสู่ห้องเรียน
  2.  ส่งเสริม/ผลักดัน/ให้คำปรึกษาแก่เด็กที่มีแนวโน้มออกเรียนให้เรียนจบอย่างน้อยระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3
  3.  ลงเยี่ยมบ้านเด็กที่หลุดจากระบบการศึกษาให้เข้าเรียนต่อในระบบการศึกษานอกระบบ(กศน.) หรือเข้า
        การศึกษาทางเลือก เช่น    กีฬา  งานช่าง  เป็นต้น 
  4.   อบรมให้ความรู้เรื่องอนามัยเจริญพันธุ์ , เอดส์และเพศ, ภัยจากยาเสพติด ให้กับเด็กในโรงเรียน

          ด้านพัฒนา
   1.    สนับสนุนให้เด็กเข้าร่วมกิจกรรมทางเลือก  เช่น  ดนตรี  กีฬา (ฟุตซอล,ออสคิด,ฟุตบอล) ฟรีรันนิ่ง 
          (Free Running),  เพลย์กราวด์  มูฟเม้นท์ (Playground Movement)  ค่ายธรรมะ  ตามความถนัด
          ความชอบ
   2.    ส่งเสริมสนับสนุนการแข่งกีฬา
   3.  ประสานกับโรงเรียน ในการจัดทำกิจกรรมพัฒนาเด็ก พัฒนาครูตามความเหมาะสมแต่ละครั้ง
   4.  ประสานกับกทม. ในเรื่องสภาคนรุ่นใหม่  จัดกิจกรรมสร้างสรรค์พื้นที่สร้างสรรค์ของเด็กและเยาวชน

        ผลสำเร็จ
              * ติดตามเด็กกลุ่มเสี่ยงมีแนวโน้มออกนอกระบบกลับเข้าห้องเรียนสำเร็จการศึกษา(โรงเรียนชุมชน
                 หมู่บ้านพัฒนา) แล้ว 100%
              * เด็กกลุ่มกีฬาสามารถเข้าศึกษาต่อในสถานศึกษาที่มีชื่อเสียง มีทุนการศึกษา และฝึก  
                 ทักษะภาษาอังกฤษ และมีโอกาสที่ได้รับคัดเลือกให้ไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ
              * เด็กกลุ่มดนตรีสามารถสร้างรายได้ให้ตนเองและครอบครัว และได้รับโควต้าเข้าเรียนใน
                  สถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียง และได้รับทุนการศึกษา

 

ปัจจุบันผู้รับผิดชอบโครงการนี้ คือ นายสัญชัย ยำสัน

ปรับปรุงข้อมูล  26/5/66

โพสโดย : Admin.DPF  | 25 ก.ค. 2566  | เข้าชม : 12  ครั้ง